วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติผู้ก่อตั้งฮอนด้า

โซอิจิโร ฮอนด้า ผู้ ก่อตั้งฮอนด้ามอเตอร์ ได้รับการจารึกชื่อในทำเนียบ ปูชนียบุคคลยานยนต์โลก (automotive hall of fame) เมื่อ 10 ตค.ปี 2532.........นับเป็ยชาวเอเซียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้



ชีวิตในวัยเด็ก


Soichiro Honda เกิดที่ Yamahigashi เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน คศ. 1906 เขาเป็น ลูกชายคนแรกของครอบครัว คุณพ่อของเขาชื่อ Gihei Honda สืบเชื้อสายมาจากชาวนา และได้เปิดร้านตีเหล็กเล็ก ๆ และรับซ่อมจักรยานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักจะซื้อจักรยานเก่ามาซ่อมขาย ซึ่งในสมัยนั้นคนญี่ปุ่นกำลังนิยมขี่จักรยานกันมาก คุณแม่ชื่อ Mika ก็ช่วยงานที่บ้านและเป็นแม่บ้าน

ครอบครัวของ Honda ยากจนมาก เขาช่วยครอบครัวทำงานมาตั้งแต่ตัวกระเปี๊ยก และเขาเริ่มคลั่งไคล้เรื่องยนต์กลไกมาตั้งแต่นั้น

"ชีวิตไม่คุ้มค่าที่จะอยู่หรอก ถ้าหกว่าไม่ทำสิ่งที่ตัวเองชอบที่สุด" นั่นคือปรัชญาชีวิตที่ฝังใจเขาตลอดมา

ห่าง จากบ้านของเขาไปหลายไมล์ มีโรงสีข้าวอยู่โรงหนึ่งที่ใช้เครื่องยนต์กับน้ำมันเบนซิน นับว่าเป็นของแปลกประหลาดมากในสมัยนั้น ปู่ของ Honda ได้ให้เขาขี่หลังไปที่นั่น เขาเฝ้าดูเครื่องยนต์เคลื่นไหวด้วยอาการหลงไหลและพิศวงถึงการทำงานของมัน


ปี พ.ศ.2457 ในขณะที่ Honda เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 เด็กชาย Soichiro Honda ได้มีโอกาสเห็นเครื่องบินที่ ไนล์ สมิธ เป็นนักบิน ในเดือนถัดมาหนูน้อย Honda พยายามแต่งตัวให้เหมือนนักบินมากที่สุด โดยสวมหน้ากากนักบินที่เขาทำขึ้นเองจากกล่องกระดาษ และที่ชาวบ้านตกใจมากที่สุดก็คือ เขาขี่จักรยานติดใบพัดไม้ไผ่ที่ผุดขึ้นมาจากสมองน้อย ๆ ของเด็กชั้น ป.2


เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่


ปี 1922 Soichiro Honda อายุ 15 ปี ก็ได้เดินทางมาโตเกียวเข้าทำงานในร้านซ่อมรถยนต์ ชื่อ Art Shokai เขาตื่นเต้นที่ได้เห็นรถยนต์วันละเป็นสิบๆ คัน ในโตเกียว ซึ่งที่หมู่บ้านของเขานั้นถ้าเดือนหนึ่งได้เห็นรถยนรต์สักคันหนึ่งก็นับว่า โชคดีแล้ว


แม้ ว่า Soichiro Honda จะได้เขาทำงานในอุ่ซ่อมรถก็จริงอยู่ แต่เขาไม่มีโอกาสทำงานที่เขารัก หน้าที่แรกของเขาคือต้องเลี้ยงลูกเจ้าของอู่ แต่เขาก็อดทนว่าสักวันหนึ่งเขาคงได้ทำงานที่เขารัก


เขาทนทำงานเลี้ยงเด็กอยู่หนึ่งเดือน ก็ได้รับหน้าที่ใหม่ให้ไปช่วยงานซ่อมเครื่องยนต์โดยเป็นลูกมือช่าง


ปี 1923 โตเกียวเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บ้านเรือนเสียหลายและไฟไหม้เป็นประวัติการณ์ บรรดาช่างี่อู่กลับบ้านกันหมด เหลืออยู่แต่ Honda กับช่างมีฝีมือคนหนึ่งเท่านั้น และในช่วงนี้เองทำให้เขาได้รับการฝึกฝนทางเครื่องยนต์อย่างเต็มที่


บังเอิญ เจ้าของอู่ซ่อมรถก็ชื่นชอบการแข่งรถ จึงได้ถ่ายทอดมาสู่ Honda ด้วย จนกระทั่งถึงปัจจุบันการแข่งรถกลายเป็นกิจกรรหนึ่งของ "ฮอนด้า มอเตอร์" ซึ่งรถแข่งของฮอนด้าอยู่ในอันดับนำของโลก


หนุ่ม น้อย Honda ใช้เวลาว่างตอนกลางคืนสร้างรถแข่งคันแรก เขาใช้เครื่องยนต์เครื่องบินยี่ห้อ เคอร์ติสไร้ท์ ซึ่งใช้ในวงการทหาร เครื่องยนต์ วี 8 ขนาด 8 ลิตร ให้กำลังแรงสูงสุดเกือบ 100 แรงม้า มีความเร็ว 1,400 รอบต่อนาที นอกจากเครื่องยนต์แล้ว Honda ทำทุกอย่างด้วยตนเอง รวมทั้งส่วนประกอบต่าง ๆ และซี่ล้อไม้ เขาเข้าแข่งได้รับชัยชนะหลายครั้ง


หลัง จากทำงานกับ Art Shokai ได้ 6 ปี เจ้าของสนับสนุนให้ Honda เปิดบริษัทของตนเอง โดยอนุญาตให้ใช้ชื่อบริษัทได้ และให้เปิดที่จังหวัด Hamamatsu


นอก จากทุ่มกับงานประจำแล้ว Honda ใช้เวลาว่างในการพัฒนารถแข่ง ในการแข่งขันครั้งสำคัญคือ ออเจแปนสปีดแรลลี่ ที่ชานเมืองโตเกียวในเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2479 Hondaได้พัฒนารถจนทำความเร็วได้ถึงชั่วโมงละ 120 ไมล์ เกือบจะถึงเส้นชัยอยู่แล้วได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อน เขาบาดเจ็บสาหัสพร้อมกับน้องชายที่นั่งคู่กัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะ แต่เขาได้รับรางวัลจากการทำสถิติความเร็ว


บริษัทแรกชื่อ ไทไก เซอิกิเฮฟวี่ อันดัสตรี


ปี 1937 เขาตั้งบริษัทใหม่ ชื่อ ไทไก เซอิกิเฮฟวี่อันดัสตรี เพื่อผลิตวงแหวนลูกสูบแต่เขาไม่สามารถผลิตได้มาตรฐาน กิจการย่ำแย่ต้องจำนำทรัพย์สิน และในที่สุดเขาตกลงใจเข้าไปเรียนรู้หาทฤษฎีในโรงเรียนมัธยมเทคโนโลยี ฮามะมัตซึ ภาคค่ำจนสามารถปรับวงแหวนลูกสูบได้มาตรฐาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าการศึกษาในโรงเรียนปราศจากคุณค่าใด ๆ เพราะมีความเชื่อว่าทฤษฎีต่าง ๆ เกิดขึ้นหลังจากมีการประดิษฐ์แล้ว


ปี 1941 สงครามขยายจากจีนไปสู่ย่านแปซิฟิกกิจการของ Honda เจริญขึ้นตามลำดับโดยส่งวงแหวนลูกสูบส่วนหนึ่งให้บริษัท Toyota Motor ซึ่งมีหุ้นอยู่ในบริษัทเขา 40% นอกจากนั้นเขายังผลิตชิ้นส่วนและเครื่องจักรต่าง ๆ ให้กองทัพเรือและ บริษัท Nakachima Aircraf ช่วงนี้เขาได้ผลิตเครื่องจักรทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ซึ่งการผลิตใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น เขาจึงได้รับคำชมเชยจากวงการทหารและหนังสือพิมพ์พากันยกย่องว่าเขาเป็น "วีรบุรุษอุตสาหกรร"


เมื่อ สงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ โรงงานของ Honda ซึ่งอยู่ใกล้สนาบิน Hamamattsu ถูกระเบิด และเดือนมกราคม 1946 เกิดแผ่นดินไหว โรงเรียนเขาพังพินาศเกือบหมด พร้อมกับสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบ โดยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้สงคราม


เขา ตกลงขายหุ้น บริษัท ไทไก เซอิกิ ให้ Toyota Motor ทั้งหมด ได้เงินจำนวนหนึ่งมา เขาจึงคิดจะใช้ชีวิตสบาย ๆ สักพักหนึ่งเพื่อวางแผนที่จะทำงานใหม่ต่อไป เขาลงทุนซื้อแอลกอฮอล์ที่กินได้ถังใหญ่มาทำวิสกี้ เชิญเพื่อน ๆ มาเลี้ยง แล้วเล่นซากุฮิจิ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งเหมือนกับขงเบ้งตีขิมเพื่อวางแผนงานชิ้นใหญ่ ต่อไป


Honda Motor


" ถ้าการขึ้นไปถึงภูเขาไฟฟูจิเป็นเป้าหมายสูงสุด ทั้งฟูจิซาวะและผมก็มีเป้าหมายเดียวกัน" นั่นคือคำพูดของ Soichiro Honda กล่าวถึงการดำเนินงานครั้งแรกของ Honda Motor ที่เขาได้ Takeo Fujisawa มาร่วมกิจการด้วยกัน โดยเขารับงานทางฝ่ายพัฒาการผลิต ส่วน Fujisawa รับงานด้านการตลาด

ใน ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังใกล้จุดจบญี่ปุ่นได้ขาดแคลนน้ำมันอย่างหนัก ทางผู้นำทางทหารพยายามที่จะหาอะไรต่ออะไรมาทดแทนและสิ่งหนึ่งก็คือ จะเอาน้ำมันสนมาใช้กับเครื่องบิน ถึงกับเกณฑ์นักศึกษาเป็นพัน ๆ คนไปขุดรากสนแต่ไม่ได้ผลอะไร


เมื่อ สงครามโลกสงบโดยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายปราชัย มีการแบ่งปันน้ำมันกัน Soichiro Honda ได้ลงทุนทำป่าสนและผลิตน้ำมันสนออกขาย แต่เขาวขาญเรื่องเครื่องยนต์มากกว่าจึงไม่ประสบความสำเร็จ


ใน เดือนตุลาคม1946 เขาได้ตั้งบริษัทสถาบันวิจัยทางวิชาการฮอนด้าที่ Hamamattsu โครงการแรกเอาเครื่องยนต์เล็ก ๆ ที่กองทัพญี่ปุ่นเคยใช้มาแล้วมาติดกับรถจักรยาน เครื่องยนต์เหล่านั้นราคาถูกเมื่อเอามาติดกับรถ 2 ล้อแล้วจึงขายได้ราคา เมื่อเครื่องยนต์หาซื้อไม่ได้แล้ว ฮอนด้าจึงเริ่มผลิตขึ้นเอง

รถ จักรยานติดเครื่องยนต์เล็กนี้กลายเป็นที่นิยมกัน เพราะช่วงนั้นญี่ปุ่นขาดแคลนอาหารอย่างหนัก ผู้คนในเมืองใหญ่ ๆ ต้องเดือนทางไปซื้อพืชพันธุ์ในย่านเกษตรนอกตัวเมือง บริการรถไฟเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ ดังนั้นรถจักรยานติดเครื่องยนต์จึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก บรรดาพ่อค้ารถวิ่งพุ่มมาที่โรงงานของเขา

Honda ขายรถของเขาได้ยังแถมขายน้ำมันสนของเขาได้อีกด้วย Honda จึงเห็นลู่ทางที่จะผลิตรถจักรยานยนต์ขึ้นมา แต่ เขาถนัดกับเครื่องยนต์กลไก ส่วนเรื่องการตลาดนั้นเขาจะต้องหาคู่ขามาร่วมมือด้วย เขาได้พบกัน Fujisawa เป็นครั้งแรก และที่นั่นเองทั้งสองก็จับมือร่วมธุรกิจด้วยกัน


Honda ได้บอกกับ Fujisawa ว่า ที่เดือนทางมาโตเกียวเพื่อจะหาเงินทุนดำเนินกิจการโรงงานสร้างจักรยานยนต์ ของเขา Fujisawa ก็ตอบไปสั้น ๆ ว่า "ผมไม่มีเงินในตอนนี้แต่ผมจะหาเงินจำนวนที่คุณต้องการมาดำเนินงานได้"
หลัง จากที่สนทนากันเพียงไม่กี่ประโยคและจากที่มีเป้าหมายเหมือนกัน Honda ตอนนั้นอายุ 42 ปี Fujisawa อายุ 38 ปี ก็ตกลงใจร่วมงานกัน และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ซึ่งไม่มีใครคิดว่าจะยิ่งหญ่ในภายหลัง Fujisawa ได้บอกกับ Honda อีกว่า "ผมจะทำให้คุณอย่างนักธุรกิจ แต่เมื่อเราแยกกันผมจะไม่ให้มันจบลงด้วยการขาดทุน นี่ผมไม่ได้พูดแต่เพียงเรื่องเงินนะ ผมหมายความว่าเมื่อเราแยกกันผมหวังว่าจะได้รับความพอใจและความสำเร็จ"

ใน วันนั้นทั้งสองพยายามคุยกันถึงอนาคตอันสวยหรู แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่ Fujisawa จะมาร่วมงานนี้ Honda ได้ปรับปรุงบริษัทสถาบันวิจัยทางวิชาการฮนด้าของเขาเป็น Honda Motor แล้ว
ทั้ง Honda และ Fujisawa ต่างมีปัรัชญา การทำงานที่ถือว่าทุกคนเสมอภาคกันไม่ว่าประธานบริษัท หรือพนักงานซึ่งปฎิบัติตามบทบาทของตน เขาทั้งสองไม่เคยที่จะอ้างความเป็นเจ้าของบริษัทที่เขาก่อตั้งมา โดยย้ำอยู่เสมอว่าการใช้อำนาจและสิทธิขาด เพื่อบังคับให้พนักงานเห็ฯดีเห็นชอบความคิดของเขานั้นจะมีผลทำลายการทำงาน เป็นหมู่คณะที่เสมอภาคกัน

ทั้งสองเกษียณตัวเองเมื่ออยู่ในวัยที่ตนเห็นว่าไม่เหมาะบริหารงาน ทั้ง สองไม่ได้มอบบริษัทให้ทายาทของตนดำเนินงานต่อ เพราะเขาถือว่า Honda Motor ไม่ใช่ของตระกูล ถ้าให้ลูกหลานที่ไม่มีความสามารถทำงานต่อบริษัทอาจจะเจ๊งก็ได้ เขาจึงให้พนักงานที่มีความสามารถบริหารงานต่อไป ทุกวันนี้ทั้งสองไม่ยุ่งเกี่ยวกับงานของบริษัท โดยเฉพาะ Honda มุ่งทำงานเกี่ยวกับความปลอดภัยของพาหนะในมูลนิธิเพื่อการกุศล

Soichiro Honda เสียชีวิตด้วยวัย 84 ปี เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1991 แต่เขาก็ได้ รับการจารึกชื่อในทำเนียบ ปูชนียบุคคลยานยนต์โลก (automotive hall of fame) เมื่อ 10 ตค.ปี 1989.........นับเป็ยชาวเอเซียคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้

1 ความคิดเห็น: